ครูกับการจัดการเรียนการสอน
ในสังคมโลกปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชน
สังคม ประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง มนุษย์
เป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้นำเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาพัฒนากระบวนการคิดได้อย่างหลากหลาย และสามารถนำความรู้ที่พัฒนามาประดิษฐ์คิดค้น
สร้างความเจริญให้แก่โลกเยี่ยงยุคปัจจุบัน
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ปีพุทธศักราช 2542
หมวด 4 มาตรา 22 ระบุว่า การศึกษาต้องยึดหลักว่า
ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
กระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
มาตรา 24(5)
กำหนดให้ผู้สอนจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนสามารถใช้การวิขัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
โดยจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ
ความถนัดและความแตกต่างของผู้เรียน ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ
การเผชิญและการประยุกต์ใช้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง
อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
เกิดจิตวิทยาศาสตร์และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
กระบวนการจัดการเรียนการสอน
ครูจะเตรียมตัวเองอย่างไร ?
ศึกษาหลักสูตร วิเคราะห์หลักสูตร กำหนดเนื้อหาสาระ
กำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง จุดประสงค์การเรียนรู้ปลายทางและนำทาง ศึกษาหลักการ
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ จิตวิทยาศาสตร์
กระบวนการวัดและประเมินผล พัฒนาเทคนิคการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ
โดยเน้นกระบวนการให้ชื่อว่าเทคนิคการเรียนรู้
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ
โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกงล้อกงหัน มี 7 ขั้นตอนดังนี้
1.ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
2.ขั้นเพียรศึกษาค้นคว้า
3.ขั้นพัฒนาความรู้และฝึกประสบการณ์
4.ขั้นสร้างสรรค์องค์ความรู้
5.ขั้นมุ่งสู่การประเมินผล
6.ขั้นแยบยลผลสรุป
7.ขั้นสุดท้ายนำไปใช้ มีการสอดแทรกกิจกรรมฝึกทักษะพื้นฐานการวิจัย
และมีรายละเอียดการบูรณาการ สาระการเรียนรู้ทั้งในกลุ่มสาระเดียวกัน
และต่างกลุ่มสาระ
- เตรียมสื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ เช่น
ตัวอย่างของจริง ใบความรู้ ชุดฝึกทักษะ กระบวนการคิด การปฏิบัติและการแก้ปัญหา
ใบงาน แถบบันทึกเสียง แผ่นโปร่งใส ฯลฯ
- เตรียมเครื่องมือวัดและประเมินผล เช่น แบบทดสอบ
แบบประเมินชิ้นงาน แบบประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์ แบบประเมินตนเองเกี่ยวกับการเรียนรู้
แบบประเมินกลุ่มเกี่ยวกับการเรียนรู้ แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินทักษะการทดลอง ฯลฯ
ครูจะเตรียมผู้เรียนอย่างไร ?
- ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้
- จุดประกายการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่เร้าความสนใจ การระดมความคิด
กิจกรรมละลายพฤติกรรม ฯลฯ
แล้วครูจะจัดเตรียมการเรียนการสอนอย่างไร ?
การจัดกระบวนการเรียนการสอน
โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบ กงล้อกงหันที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญดังนี้
1.ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
2.ขั้นเพียรศึกษาค้นคว้า
3.ขั้นพัฒนาความรู้และฝึกประสบการณ์
4.ขั้นสร้างสรรค์ความรู้
5.ขั้นมุ่งสู่การประเมินผล
6.ขั้นแยบยลผลสรุป
7.ขั้นสุดท้ายนำไปใช้
เป็นการเร้าความสนใจของผู้เรียนก่อนการเรียนรู้
ในการนำเข้าสู่บทเรียน อาจจะนำโดยครูผู้สอน ครูและนักเรียน
หรือนักเรียนเป็นผู้นำเข้าสู่บทเรียนลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือหลายลักษณะก็ได้
โดยใช้แถบบันทึกเสียง ภาพ ข่าว หนังสือพิมพ์ เกม เพลง
ดูวีดีทัศน์หรืออาจจะเป็นการทบทวนความรู้เดิม รูปภาพ คำถาม หรือกิจกรรมอื่น
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้
เป็นขั้นที่ให้ความรู้ใหม่
ที่เชื่อมโยงกับขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
เป็นขั้นที่ผู้สอนต้องใช้นวัตกรรมให้เกิดการเรียนรู้ความรู้ใหม่ โดยการใช้ใยความรู้
ใบงาน เอกสารประกอบการเรียน ชุดการเรียน ศูนย์การเรียน วีดีทัศน์
ฝึกทักษะพื้นฐานการวิจัยตั้งแต่การระบุปัญหา การตั้งสมมติฐาน การพิสูจน์ ทดสอบ
ทดลอง รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล
เป็นการฝึกระหว่างสอนในเรื่องที่ได้ศึกษาในขั้นที่ 2
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ฝึกฝนกระบวนการคิดการแก้ปัญหา
โดยให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกลุ่ม ได้เรียนรู้จากกัน
แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ความคิดและประสบการณ์แก่กันและกันให้มากที่สุด
เป็นการพัฒนาความรู้ความคิดของผู้เรียนให้เกิดแบบยั่งยืน
เป็นการประเมินระหว่างสอนตามลำดับความยากง่ายของเนื้อหา
เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ในเนื้อหานั้น
ๆ อาจทำได้โดยให้ผู้เรียนตอบคำถามเล่าเรื่องนำเสนอในสิ่งที่สร้างสรรค์ไว้
ในขั้นที่ 4 หรือบันทึกผลการทดลอง หรือใช้วิธีใดวิธีหนึ่งตามความเหมาะสมหรืออาจจะผลตามสภาพจริง
(ตนเองประเมิน เพื่อนประเมิน และครูประเมิน)
เป็นการสรุปเนื้อหาความรู้ใหม่ที่ผู้เรียนได้เรียนรู้
อาจจะสรุปโดยผู้เรียนหรือครูผู้สอนหรือครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุป
อาจจะใช้สื่อช่วยในการสรุป เช่น ใช้ในสรุปเนื้อหา ใช้วีดีทัศน์หรือรูปภาพประกอบการสรุป
เป็นขั้นที่ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
เช่น การทำโครงงานวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ในแหล่งชุมชน
การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ทำงานหรือเตรียมบทเรียนต่อไป
หรือการประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
มีการวัดและประเมินผลครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ
ด้านความรู้ กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
นอกจากนี้ยังมีการประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลที่ชัดเจน
เช่น แบบประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์ แบบประเมินชิ้นงาน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบทดสอบ แบบประเมินตนเองเกี่ยวกับการเรียนรู้
แบบประเมินทักษะวิทยาศาสตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น